Cinematographer's Corner

สังสารเสสรวล

ด้วยแรงบันดาลใจจากแก่นธรรมของท่านมิลาเรปะ จึงเป็นความตั้งใจที่จะไปยังสถานที่ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับท่าน เราจึงวางแผนการเดินทางไปยังภูเขาไกรลาส ทิเบต อีกครั้ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความเชื่อว่าเป็นที่ที่ท่านมิลาเรปะได้เคยไปภาวนา 

การเดินทางครั้งนี้ทีมงานใช้เวลาในการเดินทางไปไกรลาสทั้งหมด  22 วัน ซึ่งใช้เวลาทั้งในการปรับร่างกาย การเดินคอรา (การเดินรอบภูเขาไกรลาส) รวมถึงการถ่ายทำและกิจกรรมทั้งหมด

สิ่งแรกคือการเตรียมตัวในการเผชิญสภาวะการใช้ชีวิตอยู่ในที่สูงมากกว่า 4,500 เมตร แม้ไม่ใช่ครั้งแรกในการเดินทางสู่ทิเบต แต่ความเสี่ยงในการป่วยจากการแพ้ความสูงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สิ่งที่เราต้องการคือเวลาในการปรับตัวบนพื้นที่เพื่อบรรเทาความเสี่ยงให้น้อยที่สุด การเดินรอบภูเขาไกรลาสนั้น โดยปกติแล้วผู้คนจะเดินตัวเปล่า มีเพียงของยังชีพติดตัวหรือเพียงลูกประคำเท่านั้น 

 แต่เนื่องจากเราจะต้องถ่ายทำวีดีโอด้วย ในขณะเดินเราจึงต้องแบกกล้องและอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักติดตัวอยู่ตลอดเวลา ด้วยอากาศที่เบาบางลง อุปกรณ์ยังเท่าเดิมกับน้ำหนักบนหลังที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทุกขณะความสูงของพื้นที่ บ่อยครั้งเสียงที่ถูกอัดเข้าไปในกล้องระหว่างการถ่ายทำคือเสียงหายใจหอบและถี่ของคนถ่ายเอง หลายๆ ภาพที่บันทึกไว้เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของมิวสิกวีดีโอ แต่ไม่ได้ใช้เพราะใบหน้าที่สุดแสนจะโทรมและบูดเบี้ยวด้วยความเหนื่อย และอ่อนล้า 

ภูเขาไกรลาสมิได้มีเพียงความเกี่ยวข้องแต่เรื่องราวของท่านมิลาเรปะ แต่มีความสัมพันธ์มากมายกับเรื่องราวต่างๆ ที่ผูกพันกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และหนึ่งในเรื่องราวนั้นก็คือเรื่องราวของเขาพระสุเมรุ ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์กลางเเห่งจักรวาล การสร้างความหมายของภาพในมิวสิกวีดีโอนี้ จึงผนวกให้เป็นการเดินทางเพื่อเข้าไปให้ถึงศูนย์กลางของภูเขาไกรลาสนี้ เราได้มีการปรับเส้นทางในการเดินคอราครั้งนี้ ให้เดินทางลึกเข้าไปมากกว่าเส้นทางปกติที่เราได้เคยเดินคอรารอบภูเขาไกรลาส 

ภาพทั้งหลายที่ปรากฏในมิวสิกวีดีโอนี้ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรกูเก ทะเลสาบ Manasrovar และ Rakshastal และภูเขาไกรลาส ล้วนเป็นพื้นที่ที่มีอารยธรรมที่เก่าแก่และประวัติอันยาวนานทั้งสิ้น ตลอดเส้นทางเราค่อยๆเดินทางกันไป ผ่านซากปรักหักพังที่แล้วที่เล่า เราค่อยๆ เก็บภาพกันไป ได้แต่มองและจินตนาการไปถึงความรุ่งเรือง ยิ่งใหญ่ในสมัยก่อน เราได้ใช้สิ่งนี้ล้อกันกับเพลงสังสารเสสรวล ด้วยแรงบันดาลใจจากถ้อยคำสอนของท่านมิลาเรปะ ทั้งความน่าขัน ทั้งความโง่เขลา ทั้งการละทิ้งความหมายแห่งชีวิตกับสิ่งสมมุติที่คิดว่าเป็นของเรา เพราะสุดท้ายทุกอย่างก็ต่างสิ้นสลายไป  เราใช้ประวัติศาสตร์เพื่อแสดงให้เข้าใจได้ว่า ทำไมคำสอนของท่านมิลาเรปะหรือพระอาจารย์อีกหลายท่านจึงได้กล่าวถึงคำว่า ‘มายา’ และกล่าวถึงสิ่งต่างๆ ไว้เช่นนั้น

ตลอดเส้นทางที่เรากำลังก้าวย่างอยู่บนซากความรุ่งเรืองในอดีต เรามองเห็นเพียงวัตถุที่เราต้องพยายามคาดเดาว่าในสมัยก่อนสิ่งนั้นงดงามเพียงใด แต่ในเวลาเดียวกันนั้นอดีตที่ยังคงอยู่ในปัจจุบันคือ ผู้ปฏิบัติธรรมที่ยังคงดำรงด้วยสัจจะแห่งชีวิต ที่ยังคงก้าวเดินและภาวนาอยู่รอบๆตัวเรา ทั้งหมดนี้เองคือแก่นที่ทำให้เรากลับมาที่ไกรลาส เพื่อถ่ายทำมิวสิกวีดีโอเพลงสังสารเสสรวลนี้

มีอีกสิ่งหนึ่งที่เราตามหา แต่เรายังไม่พบอย่างที่ใจคิด นั่นคือรูปแทนตัวท่านมิลาเรปะ เราตั้งใจอยากจะนำภาพท่านมิลาเรปะใส่ในมิวสิกวีดีโอนี้ เราเลือกดูภาพทังกา (ภาพวาดองค์พระในแบบของทิเบต) แต่ยังไม่พบแบบที่ถูกใจ เวลาแห่งการเดินทางก็จบลง เราจึงกลับมามือเปล่า

ในระหว่างการทำงานตัดต่อภาพมิวสิกวีดีโอ ด้วยยังมีความปรารถนาที่ต้องการนำภาพท่านมิลาเรปะมาร่วมในมิวสิกวิดีโอ และคงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากกว่าที่จะพบภาพที่ถูกใจในเวลานั้น

หลังจากห่างหายการวาดรูปมาเกือบ 20 ปี แต่ด้วยความปราถนาอันแรงกล้านี้ จึงได้ทดลองนำภาพทังกาของท่านมิลาเรปะมาบรรจงสร้างโครงร่าง ค่อยๆบรรจงวาดลายเส้น ค่อยๆบรรจงลงสี ดูแล้วว่าพอเป็นไปได้ จึงลงมือวาดภาพไปเรื่อยๆ จนเวลาค่อยๆผ่านไปกว่า 2 สัปดาห์ ภาพท่านมิลาเรปะในใจจึงได้ปรากฏออกมา

และในที่สุดเราก็ได้ภาพท่านมิลาเรปะมาร่วมแสดงในมิวสิกวีดีโอ

ภาพภูเขาไกรลาสยามแสงแรกปะทะพื้นผิวหิมะและภูผา ขณะนั้นเป็นเวลาค่อนข้างเช้า เราตั้งกล้องและถ่ายภาพอยู่ราวครึ่งชั่วโมง แม้ก่อนหน้าเรี่ยวแรงที่จะเดินออกจากห้องพักยังแทบจะไม่มี แต่ความสุขมากมายบังเกิดภายในใจจนไม่อาจหาคำใดอธิบายได้ เราไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสได้กลับมาเยือนภูเขาไกรลาสอีกหรือไม่ ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เราได้มีโอกาสเดินทางมา ธรรมชาติของจิตวิญญาณ แห่งภูเขาไกรลาส และจิตวิญญาณของทุกๆ สถานที่ที่เราได้เดินทางไป เราได้เก็บภาพความรู้สึกแห่งสัจจะของธรรมชาติทั้งหลายที่ตั้งใจส่งมอบให้กับเรา ในคุณค่านั้นเราได้นำทุกๆ ธรรมชาติแห่งจิตวิญญาณทั้งหมดที่เราได้สัมผัสมา ส่งต่อให้กับทุกๆ คน

สังสารเสสรวล

Tip : อาจจะเห็นหลายๆ ภาพแอ๊กชั่นในมิวสิกวีดีโอนี้ ทั้งวิ่ง ทั้งกระโดด บางช็อตต้องถ่ายซ้ำไปมาเพราะแทบไม่มีแรงทั้งวิ่งและกระโดด แต่ด้วยอารมณ์และเนื้อหาของเพลงชักนำไป เมื่อต้องแสดงก็ต้องแสดงให้ได้สมบทบาท  เราจึงพยายามที่สุดจนปรากฎเป็นภาพเหล่านั้นอยู่ในมิวสิกวีดีโอ  อยากบอกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลยเมื่ออยู่ในพื้นที่สูงขนาดนั้น เพราะเสี่ยงกับการป่วยได้ตลอดเวลา

ขอย้ำว่าเมื่อใดก็ตามที่จะต้องใช้ชีวิตและเผชิญความสูงระดับเกินกว่า 3,500 เมตรเหนือน้ำทะเลโดยที่เราไม่ใช่คนพื้นที่นั้นๆ ขอให้ทำทุกอย่างช้าๆ เดินช้าๆ เพื่อสวัสดิภาพ และความปลอดภัยในชีวิต เพราะที่สูงในบางพื้นที่ไม่มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตฉุกเฉิน มีเพียงออกซิเจนถัง สิ่งที่ทำให้ปลอดภัยมากที่สุดคือการพาเดินทางลงมาในพื้นที่ต่ำให้เร็วที่สุด แต่หลายสถานะการณ์อาจไม่ทันการณ์เพราะแต่ละที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล 

High Altitude Sickness เป็นความป่วยที่สามารถปรับตัวได้จนถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน 

Artist's Letter & Cinematographer's Corner

เบื้องหลังการทำเพลงและการถ่ายทำ

Artist’s Letter สังสารเสสรวล

Artist'sLetter สังสารเสสรวล ย้อนไปเมื่อปี 2017 ที่พวกเราทีมงานได้มีโอกาสเดินทางไปในสถานที่หลายแห่งที่ล้วนมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ...

Cinematographer’s Corner หนทางแห่งโพธิสัตว์

Cinematographer's Corner หนทางแห่งโพธิสัตว์ เล่าเรื่องเบื้องหลังการถ่ายทำ บันทึกหนทางแห่งโพธิสัตว์ ถ้าพูดถึงคำว่าพระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นนามธรรม ...